Last updated: 12 ก.ย. 2567 | 205 จำนวนผู้เข้าชม |
ปฏิทินไทยคือการนับวันเดือนปีแบบไทยที่มีการนับปีตาม "พุทธศักราช" (พ.ศ.) ซึ่งเริ่มต้นจากการปรินิพพานของพระพุทธเจ้า พุทธศักราชมีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมไทย เพราะถูกนำมาใช้เป็นการบ่งบอกปีที่สอดคล้องกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทย นอกจากนั้น ปฏิทินไทยยังมีการนับวันตามรอบจันทรคติ ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้างขึ้นและข้างแรม โดยเฉพาะในวันพระที่ผู้คนใช้เป็นวันที่สำคัญในการทำบุญและปฏิบัติศาสนกิจ
หนึ่งในความแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือการนับปี ปฏิทินไทยจะนับตามพุทธศักราช ซึ่งมากกว่าปีคริสต์ศักราช (ค.ศ.) อยู่ 543 ปี เช่น ในปี ค.ศ. 2024 ปฏิทินไทยจะนับเป็นปี พ.ศ. 2567 ความแตกต่างนี้ช่วยให้คนไทยมีความเชื่อมโยงกับศาสนาและประวัติศาสตร์ของพุทธศาสนามากขึ้น
ในขณะที่ปฏิทินสากลใช้นับวันตามสุริยคติ (การหมุนรอบของโลกกับดวงอาทิตย์) ปฏิทินไทยนับวันตามจันทรคติ (การหมุนรอบของดวงจันทร์กับโลก) การนับจันทรคติมีผลต่อวันพระ วันสำคัญทางศาสนา และประเพณีต่างๆ เช่น วันเข้าพรรษา วันออกพรรษา และวันสงกรานต์
ปฏิทินไทยเน้นวันหยุดทางศาสนาและประเพณีที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาและวัฒนธรรมไทยเป็นหลัก เช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และวันอาสาฬหบูชา ซึ่งเป็นวันที่คนไทยนิยมไปทำบุญและปฏิบัติตามหลักธรรม
นอกจากวันเดือนปีตามจันทรคติแล้ว ปฏิทินไทยยังมีการระบุวันข้างขึ้นข้างแรม ซึ่งมีผลต่อความเชื่อในเรื่องดวงชะตาและการประกอบพิธีกรรมต่างๆ บางคนจะใช้ข้างขึ้นข้างแรมในการวางแผนทำบุญหรือจัดพิธีกรรมที่เชื่อว่าจะนำโชคดีมาให้
ปฏิทินไทยมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชีวิตประจำวันของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดวันพระเพื่อทำบุญ การนัดหมายเรื่องพิธีกรรมทางศาสนา หรือการเฉลิมฉลองวันหยุดตามประเพณี ปฏิทินไทยยังเป็นเครื่องมือในการแสดงถึงความเป็นไทยที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคน
ปฏิทินไทยไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือในการบอกวันเวลา แต่เป็นสะพานเชื่อมโยงระหว่างคนไทยกับศาสนาและวัฒนธรรมไทย ความแตกต่างระหว่างปฏิทินไทยและปฏิทินสากลทำให้เราเห็นถึงความหลากหลายของวิถีชีวิตและความเชื่อที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจของคนไทย ปฏิทินไทยจึงยังคงเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและมีบทบาทสำคัญในการดำเนินชีวิตของคนไทยจนถึงปัจจุบัน
24 ก.ค. 2567